กสิกรไทยจัด Business Matching ธุรกิจเอสเอ็มอีมันสำปะหลังไทย-จีน
Date: 11 เม.ย. 2556 12:53
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยจัดกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยและนักธุรกิจจีน ด้วยการนำคู่ค้ามาพบกันเพื่อให้เกิดการค้าการลงทุนอย่างแท้จริง และช่วยสร้างความมั่นใจและเข้าใจการทำธุรกิจในประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นการสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลจีนที่สนับสนุนให้ผู้ประกอบการจีนออกมาลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสให้ประเทศไทยได้เป็นศูนย์กลางในการขยายตลาดเข้าสู่ AEC ที่กำลังจะมาถึงอีกด้วย
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการจีนที่เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประเทศไทยมีวัตถุดิบทางเกษตรกรรมอยู่จำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการจีนต้องการเข้ามาลงทุนในไทยเพื่อจะได้อยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบ ซึ่งจะง่ายต่อการควบคุมคุณภาพวัตถุดิบก่อนส่งออกไปยังประเทศจีน ซึ่งมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเอทานอล ดังนั้นปริมาณความต้องการมันสำปะหลังของจีนจึงเพิ่มมากขึ้น
โดยที่ผ่านมาประเทศไทยส่งออกมันสำปะหลังไปจีนสูงถึงร้อยละ 98 จากปริมาณการส่งออกมันสำปะหลังไปทั่วโลก เนื่องจากมันสำปะหลังของไทยมีคุณภาพสูงเป็นที่ต้องการของคนจีน แต่ปัจจุบันการซื้อขายมันสำปะหลังระหว่างผู้ประกอบการไทยและจีนจะผ่านพ่อค้าคนกลาง ส่งผลให้ได้รับสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ ในขณะที่ทางผู้ประกอบการไทยเองก็มีความต้องการที่จะหาคู่ค้าที่รับซื้อมันสำปะหลังโดยตรงเพิ่มขึ้น ซึ่งธนาคารกสิกรไทยมองเห็นโอกาสในการช่วยจับคู่ธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสที่จีนจะนำเข้ามันสำปะหลังจากไทยในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมถึง 1 ล้านตัน ซึ่งจะสร้างรายได้เข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 7,000 ล้านบาท
ด้านนายพิพิธ เอนกนิธิ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ภาพรวมการค้าระหว่างไทยกับจีนในปีที่ผ่านมา มีมูลค่าการค้าสูงถึง 78,684.81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2.08 ล้านล้านบาท สูงขึ้นจากปี 2554 ร้อยละ 12.5 สินค้าที่คนจีนมีความต้องการมากชนิดหนึ่ง คือ มันสำปะหลัง ซึ่งถือเป็นสินค้าที่จีนนำเข้ามาจากไทยสูงเป็นอันดับ 6 คิดเป็นมูลค่าการส่งออกในปี 2555 อยู่ที่ประมาณ 1,496.33 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวจากปี 2554 ร้อยละ 10.10 ครองส่วนแบ่งทางการตลาดในจีนได้ถึงร้อยละ 68.9 ของมูลค่าการนำเข้ามันสำปะหลังทั้งหมดของจีน และคาดว่าในปี 2556 จะขยายตัวในอัตราร้อยละ 14-18